วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พุทธวจน

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก

๓ จำพวก เป็นไฉน คือ

๑.  บุคคลที่ไม่ควรเสพ  ไม่ควรคบ  ไม่ควรเข้าใกล้ มีอยู่.

๒.  บุคคลที่ควรเสพ   ควรคบ   ควรเข้าไปนั่งใกล้  มีอยู่.

๓.  บุคคลที่จะต้องสักการะ  เคารพ   แล้วจึงเสพ  คบหา

เข้าไปนั่งใกล้  มีอยู่.

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย

ก็บุคคล ที่ไม่ควรเสพ  ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าไปนั่งใกล้ เป็นไฉน

บุคคล  ในโลกนี้  บางคน เป็นคนเลว  โดย  ศีล  สมาธิ   ปัญญา

ไม่ใช่เฉพาะ.

ไม่ใช่เฉพาะโดยศีลนะคะ...แต่เป็นคนเลวโดยศีล สมาธิ ปัญญา

บุคคล เห็นปานนี้  ไม่ควรเสพ  ไม่ควรคบ  ไม่ควรเข้าไปนั่งใกล้

นอกจาก.......เอ็นดู  อนุเคราะห์แก่กัน.


ดูกร  ภิกษุทั้งหลาย

ก็บุคคล  ที่ควรเสพ  ควรคบ  ควรเข้าไปนั่งใกล้ 

  เป็นไฉน.


บุคคลบางคนในโลกนี้เช่นเดียวกับตนโดยศีล สมาธิ ปัญญา

บุคคล   เห็นปานนี้    ควรเสพ    ควรคบ   ควรเข้าไปนั่งใกล้.

ข้อนั้น เพราะเหตุไร.

 เพราะการสนทนาปรารภศีล จักมีแก่พวกเรา 

ผู้เป็นคน เสมอกัน โดยศีลด้วย

การสนทนาของพวกเรานั้น จักเป็นถ้อยคำเป็นไปด้วย

และจักเป็นความสำราญ ของเราด้วย.


การสนทนาปรารภสมาธิ จักมีแก่พวกเรา

ผู้เป็นคน เสมอกัน โดยสมาธิด้วย

การสนทนาของเรานั้น จักเป็นถ้อยคำเป็นไปด้วย

และจักเป็นความสำราญ ของเราด้วย.


การสนทนาปรารภปัญญา จักมีแก่พวกเรา

ผู้เป็นคนเสมอกัน โดยปัญญาด้วย

การสนทนาของเรานั้น จักเป็นถ้อยคำเป็นไปด้วย

และจักเป็นความสำราญ ของเราด้วย.

ฉะนั้น บุคคลเห็นปานนี้

จึงควรเสพ ควรคบ ควรเข้าไปนั่งใกล้.


ดูกร  ภิกษุทั้งหลาย

ก็บุคคล ที่จะต้องสักการะ  เคารพ  แล้วจึงเสพ  คบหา  เข้าไปนั่งใกล้

เป็นไฉน.


บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ยิ่ง โดยศีล สมาธิ  ปัญญา

บุคคล เห็นปานนี้  จักต้องสักการะ เคารพ  แล้วจึงเสพ

คบหา  เข้าไปนั่งใกล้.


ข้อนั้น  เพราะเหตุไร.

เพราะอาการเช่นนี้ จักบำเพ็ญศีลขันธ์ ที่ยังไม่บริบูรณ์ ให้บริบูรณ์

หรือ จักอนุเคราะห์  ศีลขันธ์  ที่บริบูรณ์  ด้วยปัญญา  ในที่นั้นๆ.



จักบำเพ็ญสมาธิขันธ์  ที่ยังไม่บริบูรณ์  ให้บริบูรณ์

หรือ จักอนุเคราะห์  สมาธิขันธ์  ที่บริบูรณ์ ด้วยปัญญา ในที่นั้นๆ.



จักบำเพ็ญปัญญาขันธ์  ที่ยังไม่บริบูรณ์  ให้บริบูรณ์

หรือ  จักอนุเคราะห์  ปัญญาขันธ์ ที่บริบูรณ์ ด้วยปัญญา ในที่นั้นๆ.


ฉะนั้น  บุคคล เห็นปานนี้ จึงควรสักการะ เคารพ 

แล้วเสพ  คบหา  เข้าไปนั่งใกล้.

ดูกร  ภิกษุทั้งหลาย

บุคคล ๓ จำพวก นี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก.

ครั้น พระผู้มีพระภาคศาสดา  ตรัสไวยากรณภาษิต จบลงแล้ว

จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์  ต่อไปอีกว่า

บุคคล   คบคนเลว   ย่อมเลวลง

คบคนที่เสมอกัน  ย่อมไม่เสื่อม ในกาลไหนๆ

คบคนที่สูงกว่า  ย่อมพลันเด่นขึ้น

ฉะนั้น จึงควรคบคนที่สูงกว่าตน  ดังนี้.
จบ สูตรที่ ๖


จุดประสงค์

ก็เพื่อที่จะให้บริบูรณ์ทั้ง  ศีล  สมาธิ  ปัญญา.